อื่นๆ
CITIZEN SEIMITSU (THAILAND) CO., LTD.
กระบวนการตัดเฉือน (Cutting Processing) เป็นวิธีการผลิตที่สำคัญในการขึ้นรูปและปรับแต่งโลหะ พลาสติก และวัสดุคอมโพสิต โดยเป็นการกำจัดวัสดุออกจากชิ้นงานเพื่อให้ได้ขนาดที่แม่นยำ พื้นผิวที่เรียบเนียน และคุณสมบัติการใช้งานที่ต้องการ เทคนิคการตัดเฉือนมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ ความแม่นยำที่ต้องการ และปริมาณการผลิต
1. กระบวนการตัดเฉือนคืออะไร?
การตัดเฉือนเป็นกระบวนการผลิตแบบลบเนื้อวัสดุ (Subtractive Manufacturing) ที่ใช้เครื่องมือตัด, เลเซอร์ หรือวิธีการอื่น ๆ ในการกำจัดวัสดุออกจากชิ้นงาน กระบวนการนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นยานยนต์ อากาศยาน อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
วัตถุประสงค์หลักของกระบวนการตัดเฉือน
- ให้ความแม่นยำและความถูกต้องของขนาดสูง
- ปรับปรุงคุณภาพพื้นผิวเพื่อการใช้งานหรือความสวยงาม
- ขึ้นรูปชิ้นส่วนให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคนิคการตัดเฉือนที่รวดเร็วและอัตโนมัติ
2. ประเภทของกระบวนการตัดเฉือน
2.1 การตัดเฉือนเชิงกล (Mechanical Cutting)
เป็นกระบวนการที่ใช้แรงกายภาพในการกำจัดวัสดุออกจากชิ้นงาน
การกลึง (Turning - Lathe Cutting)
- ชิ้นงานหมุนอยู่กับที่ ขณะที่เครื่องมือตัดเฉือนวัสดุออก
- ใช้สำหรับชิ้นส่วนทรงกระบอก เช่นเพลา บูช และท่อ
การกัด (Milling)
- เครื่องมือหมุนเพื่อตัดเฉือนวัสดุจากชิ้นงานที่อยู่กับที่
- ใช้สร้างรูปร่างที่ซับซ้อน ร่อง และรูเจาะ
การเจาะ (Drilling)
- ใช้ดอกสว่านหมุนเพื่อสร้างรูที่แม่นยำในชิ้นงาน
- นิยมใช้ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและโครงสร้างโลหะ
การเลื่อย (Sawing)
- ใช้ใบเลื่อยที่มีฟันตัดวัสดุให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ
- เหมาะสำหรับการตัดแผ่นโลหะ แท่ง และท่อ
2.2 การตัดเฉือนด้วยความร้อน (Thermal Cutting)
เป็นเทคนิคที่ใช้ความร้อนในการหลอมละลายและแยกวัสดุออกจากกัน
การตัดด้วยเลเซอร์ (Laser Cutting)
- ใช้ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงในการหลอมและระเหยวัสดุ
- มีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับวัสดุที่บาง
การตัดด้วยพลาสมา (Plasma Cutting)
- ใช้พลาสมาร์คที่มีอุณหภูมิสูงเพื่อตัดโลหะ
- เหมาะสำหรับโลหะหนา เช่นเหล็กและอะลูมิเนียม
การตัดด้วยออกซีเชื้อเพลิง (Oxy-Fuel Cutting)
- ใช้ออกซิเจนและแก๊สเชื้อเพลิงในการเผาไหม้และตัดโลหะ
- ใช้ได้ดีกับเหล็กแผ่นหนา
2.3 การตัดเฉือนด้วยกระแสไฟฟ้า (Electrical Discharge Machining - EDM)
เป็นเทคนิคที่ใช้ประกายไฟฟ้าในการกำจัดวัสดุโดยไม่สัมผัสกับชิ้นงาน
-Wire EDM: ใช้ลวดอิเล็กโทรดบางในการตัดเฉือนรูปร่างที่ซับซ้อน
-Sinker EDM: ใช้แม่พิมพ์อิเล็กโทรดเพื่อสร้างร่องลึกและโพรง
เหมาะสำหรับโลหะแข็งและชิ้นงานที่มีรูปทรงซับซ้อนซึ่งเทคนิคตัดเฉือนทั่วไปไม่สามารถทำได้
3. การใช้งานของกระบวนการตัดเฉือน
3.1 อุตสาหกรรมยานยนต์
- การตัดเฉือนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และตัวถัง
- ใช้เครื่องจักรความเร็วสูงเพื่อรองรับการผลิตจำนวนมาก
3.2 อุตสาหกรรมอากาศยาน
- การแปรรูปใบพัดกังหันและโครงสร้างเครื่องบินที่ต้องการความแม่นยำสูง
- การตัดเฉือนวัสดุน้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
3.3 อุปกรณ์ทางการแพทย์
- การตัดเฉือนขนาดเล็กสำหรับเครื่องมือศัลยกรรมและอุปกรณ์ฝังในร่างกาย
- การใช้เทคนิคแบบไม่สัมผัส (เลเซอร์และ EDM) เพื่อรักษาคุณสมบัติของวัสดุ
3.4 อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์
- การตัดเวเฟอร์ซิลิคอนสำหรับไมโครชิปและแผงวงจร
- การตัดเฉือนเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูงสำหรับวัสดุบาง
4. ข้อดีของเทคโนโลยีการตัดเฉือนขั้นสูง
เทคโนโลยีการตัดเฉือนสมัยใหม่ให้ประโยชน์ที่สำคัญ ได้แก่:
-ความแม่นยำสูง: สามารถทำงานได้ในระดับความคลาดเคลื่อน ±0.001 มม.
-ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ความเร็วในการตัดสูงช่วยลดเวลาในการผลิต
-ความหลากหลาย: สามารถใช้กับวัสดุที่หลากหลาย เช่น โลหะ พลาสติก และวัสดุคอมโพสิต
-ลดการสูญเสียวัสดุ: การวางแผนเส้นทางการตัดอย่างเหมาะสมช่วยให้ใช้วัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชื่อบริษัท | CITIZEN SEIMITSU (THAILAND) CO., LTD. | หมายเลขสมาชิกเอมิดัส | 104559 |
---|---|---|---|
ประเทศ | ไทย | ที่อยู่ |
อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไทย |
หมายเลขโทรศัพท์ | 035-200-565 | หมายเลขโทรสาร | 035-200-568 |
จำนวนพนักงาน | 950,000,000 ฿ | ยอดขายสูงสุดในหนึ่งปี | |
จำนวนพนักงาน | 471คน | ผู้รับผิดชอบ | Kwang |